วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Chiangmai art Museum


ศิลปะที่เชื่อมโยงกับสัจธรรม (เชียงใหม่/ไทย)



ใครเคยสังเกตุบ้างว่าแต่ละวันเราเห็นโฆษณามากขนาดไหน
ตามท้องถนน ทางด่วน บนรถไฟฟ้า หลังรถเมล์
บนรถแท็กซี่ หรือ ในจอมือถือของเราเอง
โฆษณา คือสื่อที่มนุษย์สร้างขึ้น
เพื่อจุดประสงค์บางอย่างทางการตลาด
ทำให้อยากสวย อยากมีสุขภาพแข็งแรง อยากกิน อยากอยู่ อยากใช้
ที่สำคัญคือ “อยากได้” นั่นเอง
บางทีโฆษณาก็ล่อลวงให้คนหลวมตัวจ่ายเงินซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น
มีงานโฆษณาน้อยชิ้นที่กระตุ้นเตือนให้ฉุกคิดถึงความจริง
ให้ละความอยาก ให้เห็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็น
ให้คิดสิ่งที่ไม่ค่อยได้คิด...


เมื่อเร็วๆนี้ผมมีโอกาสไปชมนิทรรศการศิลปะที่ Chiangmai art Museum อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
ได้ชื่นชมวิธีถ่ายทอดของศิลปินผ่านผืนผ้าใบและวัสดุหลายชนิด
ส่วนใหญ่เป็นผลงานสร้างแรงบันดาลใจ การเตือนให้ฉุกคิดบางอย่าง
 

ภาพต้นมักกะลีผลขนาดใหญ่ ที่เห็นความลุ่มหลง และความเสื่อมถอย อยู่ภาพเดียวกัน
แสดงความไม่ยั่งยืนของร่างกาย เป็นความสุขที่ร่วงโรยไปตามกาลเวลา
สังเกตด้านบนของภาพ ผลที่ออกใหม่ย่อมหวานหอมมีแต่คนชื่นชม
ขณะที่ด้านล่างคือผลแก่ร่วงลงพื้นไม่สวยงาม ไม่มีใครสนใจ
เตือนให้เห็นความจริงและไม่ควรหลงกับวัตถุหรือความสวยงาม

อีกภาพหนึ่ง เป็นภาพกลุ่มสาวงามบรรเลงเพลงอย่างมีความสุขอยู่ริมน้ำ เนื้อตัวผิวพรรณสดชื่นผ่องใส
ขณะที่เงาสะท้อนใต้น้ำกลับเห็นเป็นความร่วงโรย แก่ชรา และไม่มีความสุข
ภาพนี้ก็สะท้อนว่าความสุขนั้นไม่ยั่งยืนเช่นกัน
 
นอกจากนี้ในนิทรรศการยังแสดงภาพแสดงวิถีชาวพุทธของคนไทย
ภาพสัตว์ป่าหิมพานต์หลายภาพ ซึ่งมีความวิจิตรประณีตและน่าชื่นชม

 
ผลงานเหล่านี้คือศิลปะที่เชื่อมโยงกับสัจธรรม
เตือนว่าคนเรา เกิดมา เพื่อเจ็บ เพื่อแก่ และสุดท้ายก็ตายจากไป
เมื่อนึกได้ก็ควรละความอยากได้อยากมีลงบ้าง
และที่สำคัญควรค้นหาความสงบสุขที่แท้จริงถ้ามีโอกาส
 
การมาเที่ยวชมในครั้งนี้ได้เติมความรู้สึกอิ่มใจ และแยกแยะระหว่าง
“ป้ายโฆษณา” กับ “ผลงานศิลปะ” ว่าต่างกันอย่างไร
แม้ในชีวิตประจำวันเราต้องเจอกับสิ่งที่คอยล่อลวงอยู่ตลอดเวลา
แต่ความสำคัญอยู่ที่ เราตระหนักได้ว่า อะไรจริง อะไรหลอก..