หมู่บ้านชิราคาวาโกะ หนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่น |
มีคนบอกว่าชีวิตคือการเดินทาง
ผมเห็นด้วย แต่ขอเสริมไปอีกนิดว่าเป็นการเดินทางด้วย “รถไฟ “
เพราะแต่ละสถานี ก็เหมือนเป็นแต่ละช่วงเวลาชีวิต
ทุกคนเดินทางไปสู่จุดหมายที่แตกต่างกัน
เราเลือกเส้นทางได้ เปลี่ยนสถานีได้
แต่รถไฟเดินไปตามตารางเวลาเสมอ ไม่สามารถหยุดรอได้
บางครั้งก็ผ่านสถานีที่สวยงาม มีความสุขเราก็อยู่ได้พักหนึ่ง แล้วก็ต้องไปต่อ
บางครั้งก็ผ่านสถานีที่มีความทุกข์ เราก็อยากไปต่อเร็วๆ แต่ก็ต้องรอเวลารถออก
รถไฟบางขบวนเต็มไปด้วยความอบอุ่น มีความเก่าแก่ ทรงคุณค่า เพราะสะสมวัฒนธรรม ประสบการณ์ของผู้คนจึงถูกอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัส ไม่ต้องใช้จินตนาการจากหนังสือ หรือเรื่องเล่า
ลองแวะสถานีของอดีตและความประทับใจกันก่อน
บรรยากาศภายในเมืองโอบล้อมด้วยขุนเขา |
มองจากมุมสูงเห็นหมู่บ้านสไตล์โบราณทั้งหมด |
มีภูเขาสูงล้อมรอบทุกด้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
ต้องเผชิญกับสภาพภูมิอากาศหนาว หิมะที่ตกหนัก
จึงเกิดภูมิปัญญาในการสร้างหลังคาที่ลาดชันมากถึง 60 องศา ดูคล้ายการพนมมือ หรือที่เรียกว่า กัสโช (Gassho-zukuri)
ทำให้หิมะไหลตกลงมาจากหลังคาได้ส่วนหนึ่ง ประหยัดแรงงาน ประหยัดเวลา
ใช้วัสดุท้องถิ่นอย่างหญ้าคาเพื่อป้องกันความหนาวเย็น
ภายในบ้านถูกแบ่งเป็นชั้น เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย
ชั้นบนใช้เก็บของและเลี้ยงไหม ชั้นล่างเป็นที่อยู่อาศัย
นอกจากนี้บ้านแต่ละหลังจะหันหน้าไปตามทิศทางลม
เพื่อช่วยให้บ้านเย็นสบายในฤดูร้อน และช่วยให้อบอุ่นในฤดูหนาว
ทำให้มีความเป็นระเบียบ และมีเสน่ห์ ต่อผู้พบเห็น
ปัจจุบัน บ้านเรือน บางส่วน ปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
กลายเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร
บางหลังก็ถูกอนุรักษ์ไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ ให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้
****
ย่านชิบุยา มหานครโตเกียว |
เป็นรถไฟสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าตื่นเต้น
ถ้าหลับจากชิราคาวาโกะ มาตื่นที่ “โตเกียว”
เราคงต้องตกใจกับสภาพเมืองและผู้คนมากมาย
ที่โตเกียว แทบจะไม่มีสิ่งไหนหยุดนิ่ง
เมืองใหญ่ขนาด10 ล้านคน เดินทางด้วยรถไฟเป็นหลัก
แต่ละสถานีจึงเต็มไปด้วยผู้คนที่กึ่งเดินกึ่งวิ่ง ขวักไขว่ไปมา
มีอาคารสูงมากมาย พร้อมกับแสงสีจากป้ายโฆษณา
โดยเฉพาะแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงอย่างชินจูกุ ฮาราจุกุ ชิบูยา อิเคบุโคโร
จะเห็นวัยรุ่นแต่งตัวเหมือนมาจากอนาคต หรือออกมาจากหนังสือการ์ตูน
เมื่อผ่านกาลเวลาสิ่งที่ล้าหลังก็จะเสื่อมถอยและหายไปตามกาลเวลา
แต่สิ่งที่ดีจะคงอยู่เป็นวัฒนธรรมและกลายป็นสัญชาตญาณ
เอกลักษณ์เฉพาะของคนญี่ปุ่น ที่น่าเลื่อมใสคือระเบียบวินัย ใจสู้ และอดทน
มีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆเพื่ออำนวยความสะดวก ตั้งแต่เรื่องใหญ่ไปจนถึงเรื่องเล็กๆน้อยๆ
ตู้กดน้ำอัตโนมัติที่มีอยู่ทุกตรอกซอกซอย ทดแทนการใช้แรงงานทีมีราคาสูง
ชักโครกที่มีฝาอุ่น และฉีดน้ำอุ่น
เก้าอี้นวดเพื่อผ่อนคลายจากการทำงานหนัก
ระบบประปาที่แยกน้ำร้อน น้ำเย็น สะอาดและสามารถดื่มได้
แม้เผชิญกับความยากลำบาก ทั้งสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ กับภูมิประเทศที่มีภูเขาล้อมรอบ และเป็นเกาะแยกกัน
แต่ญี่ปุ่นก็ประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศ
ปัจจัยสำคัญคือระบบรางที่ทันสมัย
มีรถไฟวิ่งไปทุกทิศ ทั่วประเทศ เชื่อมไปยังเกาะต่างๆ
มีการเจาะอุโมงค์นับไม่ถ้วน เพื่อทำถนนและทางรถไฟ
มีรถไฟความเร็วสูงอย่างชินคันเซน (shinkansen) ช่วยให้ความเจริญลุกลามไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
แผนผังรถไฟในโตเกียว |
รถไฟเป็นส่วนสำคัญในการนำความเจริญสู่ภูมิภาค |
ปีนี้ “สถานีโตเกียว” มีอายุครบ 100 ปีพอดี
ทางการญี่ปุ่นเห็นคุณค่าของการอนุรักษ์ และได้ถ่ายทอดความเป็นมาของสถานีโตเกียวแก่ผู้คน
เป็นตัวอย่างที่พิสูจน์ว่า “อดีต” เป็นสิ่งจำเป็น สำหรับ “ปัจจุบัน” และ “อนาคต”
เราเรียนรู้จากอดีต แต่ไม่ยึดติดกับอดีต
แต่ก็ใครหลายคนพยายามยืดติดที่สถานี “อดีต” ไม่อยากไปสถานี “อนาคต”
ด้วยเหตุผลเดียวเท่านั้น
กระซิบเบาๆว่า “กลัวแก่”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น