วันพุธที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

สถานีกาลเวลา

หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (โทยามา/ญี่ปุ่น)
หมู่บ้านชิราคาวาโกะ หนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่น


มีคนบอกว่าชีวิตคือการเดินทาง
ผมเห็นด้วย แต่ขอเสริมไปอีกนิดว่าเป็นการเดินทางด้วย “รถไฟ “
เพราะแต่ละสถานี ก็เหมือนเป็นแต่ละช่วงเวลาชีวิต
ทุกคนเดินทางไปสู่จุดหมายที่แตกต่างกัน
เราเลือกเส้นทางได้ เปลี่ยนสถานีได้
แต่รถไฟเดินไปตามตารางเวลาเสมอ ไม่สามารถหยุดรอได้
บางครั้งก็ผ่านสถานีที่สวยงาม มีความสุขเราก็อยู่ได้พักหนึ่ง แล้วก็ต้องไปต่อ
บางครั้งก็ผ่านสถานีที่มีความทุกข์ เราก็อยากไปต่อเร็วๆ แต่ก็ต้องรอเวลารถออก

รถไฟบางขบวนเต็มไปด้วยความอบอุ่น มีความเก่าแก่ ทรงคุณค่า เพราะสะสมวัฒนธรรม ประสบการณ์ของผู้คนจึงถูกอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัส ไม่ต้องใช้จินตนาการจากหนังสือ หรือเรื่องเล่า
ลองแวะสถานีของอดีตและความประทับใจกันก่อน

บรรยากาศภายในเมืองโอบล้อมด้วยขุนเขา


มองจากมุมสูงเห็นหมู่บ้านสไตล์โบราณทั้งหมด
หมู่บ้านมรดกโลก “ ชิราคาวาโกะ”  (Shirakawa-go) จังหวัดกิฟูและโทยามา ของญี่ปุ่น
มีภูเขาสูงล้อมรอบทุกด้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
ต้องเผชิญกับสภาพภูมิอากาศหนาว หิมะที่ตกหนัก
จึงเกิดภูมิปัญญาในการสร้างหลังคาที่ลาดชันมากถึง 60 องศา ดูคล้ายการพนมมือ หรือที่เรียกว่า กัสโช (Gassho-zukuri)
ทำให้หิมะไหลตกลงมาจากหลังคาได้ส่วนหนึ่ง ประหยัดแรงงาน ประหยัดเวลา
ใช้วัสดุท้องถิ่นอย่างหญ้าคาเพื่อป้องกันความหนาวเย็น
ภายในบ้านถูกแบ่งเป็นชั้น เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย
ชั้นบนใช้เก็บของและเลี้ยงไหม ชั้นล่างเป็นที่อยู่อาศัย
นอกจากนี้บ้านแต่ละหลังจะหันหน้าไปตามทิศทางลม
เพื่อช่วยให้บ้านเย็นสบายในฤดูร้อน และช่วยให้อบอุ่นในฤดูหนาว
ทำให้มีความเป็นระเบียบ และมีเสน่ห์ ต่อผู้พบเห็น

ปัจจุบัน บ้านเรือน บางส่วน ปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
กลายเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร
บางหลังก็ถูกอนุรักษ์ไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ ให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้

****
ย่านชิบุยา มหานครโตเกียว
กลับมาขึ้นรถไฟเข้าสู่เมืองหลวง
เป็นรถไฟสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าตื่นเต้น
ถ้าหลับจากชิราคาวาโกะ มาตื่นที่ “โตเกียว”
เราคงต้องตกใจกับสภาพเมืองและผู้คนมากมาย
ที่โตเกียว แทบจะไม่มีสิ่งไหนหยุดนิ่ง
เมืองใหญ่ขนาด10 ล้านคน เดินทางด้วยรถไฟเป็นหลัก
แต่ละสถานีจึงเต็มไปด้วยผู้คนที่กึ่งเดินกึ่งวิ่ง ขวักไขว่ไปมา
มีอาคารสูงมากมาย พร้อมกับแสงสีจากป้ายโฆษณา
โดยเฉพาะแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงอย่างชินจูกุ ฮาราจุกุ ชิบูยา อิเคบุโคโร
จะเห็นวัยรุ่นแต่งตัวเหมือนมาจากอนาคต หรือออกมาจากหนังสือการ์ตูน

เมื่อผ่านกาลเวลาสิ่งที่ล้าหลังก็จะเสื่อมถอยและหายไปตามกาลเวลา
แต่สิ่งที่ดีจะคงอยู่เป็นวัฒนธรรมและกลายป็นสัญชาตญาณ
เอกลักษณ์เฉพาะของคนญี่ปุ่น ที่น่าเลื่อมใสคือระเบียบวินัย ใจสู้  และอดทน
มีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆเพื่ออำนวยความสะดวก ตั้งแต่เรื่องใหญ่ไปจนถึงเรื่องเล็กๆน้อยๆ
ตู้กดน้ำอัตโนมัติที่มีอยู่ทุกตรอกซอกซอย ทดแทนการใช้แรงงานทีมีราคาสูง
ชักโครกที่มีฝาอุ่น และฉีดน้ำอุ่น
เก้าอี้นวดเพื่อผ่อนคลายจากการทำงานหนัก
ระบบประปาที่แยกน้ำร้อน น้ำเย็น สะอาดและสามารถดื่มได้


แม้เผชิญกับความยากลำบาก ทั้งสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ กับภูมิประเทศที่มีภูเขาล้อมรอบ และเป็นเกาะแยกกัน
แต่ญี่ปุ่นก็ประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศ
ปัจจัยสำคัญคือระบบรางที่ทันสมัย
มีรถไฟวิ่งไปทุกทิศ ทั่วประเทศ เชื่อมไปยังเกาะต่างๆ
มีการเจาะอุโมงค์นับไม่ถ้วน เพื่อทำถนนและทางรถไฟ
มีรถไฟความเร็วสูงอย่างชินคันเซน (shinkansen) ช่วยให้ความเจริญลุกลามไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
แผนผังรถไฟในโตเกียว

รถไฟเป็นส่วนสำคัญในการนำความเจริญสู่ภูมิภาค
ถ้าเราเอ็กซเรย์ใต้พื้นดินในโตเกียว จะเห็นเส้นทางรถไฟเป็นตาข่ายที่คลุมไปทั่วเมือง
ปีนี้ “สถานีโตเกียว”  มีอายุครบ 100 ปีพอดี
ทางการญี่ปุ่นเห็นคุณค่าของการอนุรักษ์ และได้ถ่ายทอดความเป็นมาของสถานีโตเกียวแก่ผู้คน
เป็นตัวอย่างที่พิสูจน์ว่า “อดีต” เป็นสิ่งจำเป็น สำหรับ “ปัจจุบัน” และ “อนาคต”
เราเรียนรู้จากอดีต แต่ไม่ยึดติดกับอดีต
แต่ก็ใครหลายคนพยายามยืดติดที่สถานี “อดีต”  ไม่อยากไปสถานี “อนาคต”
ด้วยเหตุผลเดียวเท่านั้น
กระซิบเบาๆว่า “กลัวแก่”

ไม่มีความคิดเห็น: